รู้หรือไม่ แมวก็มีความลับที่คุณอาจจะไม่รู้เหมือนกัน

รู้หรือไม่ แมวก็มีความลับที่คุณอาจจะไม่รู้เหมือนกัน ???

เพื่อนๆที่ชอบแมว หรือเลี้ยงแมวเป็นชีวิตจิตใจแล้ว เคยสังเกตุอาการ หรือ เรียนรู้พฤติกรรม ของแมวหรือไม่ครับ หลังจากที่เคยพูดถึงเรื่อง วิธีเรียนรู้พฤติกรรมและลักษณะของแมว ไปแล้ว วันนี้จะมาเสริมต่อในเรื่องของ รู้หรือไม่ แมวก็มีความลับที่คุณอาจจะไม่รู้เหมือนกัน เรามาเรียนรู้ด้วยกันเลยครับ ว่าแมวมีความลับอะไรไม่บอกเราบ้าง

1. การที่เราเชื่อว่าแมวจะขโมยลมหายใจของทารก ในความเป็นจริงแล้ว ต้องบอกว่าแมวไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ กับทารกของคุณหรอกหรือเจตนาไม่ดีกับใครเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าพวกมันชอบหาที่อบอุ่นๆ และสบายๆ นอนก็เท่านั้นเอง เชื่อหรือไม่ว่าลมหายใจของทารกเป็นอุณหภูมิที่แมวต้องการพอดี ดังนั้นเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้แมวชอบเข้าไปคลุกคลีกับทารกอยู่บ่อยๆ เท่านั้นเอง แต่ทั้งนี้คุณก็ไม่ควรให้แมวเข้าใกล้ทารกของคุณมากเกินไปเพราะอาจจะทำให้เด็กติดเชื้อโรค หรืออาจจะทำให้ทารกเกิดภูมิแพ้ขึ้นมาก็ได้

2. การที่เชื่อว่าผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรเลี้ยงแมว การที่ผู้หญิงตั้งครรภ์นั้นไม่ควรสัมผัสตัวแมว หรือทำอะไรเกี่ยวกับแมวบ่อยนัก ก็เพราะว่าอาจจะทีโอกาสติดเชื้อท็อกโซพลาสโมซิสจากแมวได้ โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรก ซึ่งหากทารกติดเชื้อก็อาจจะทำเกิดอาการสมองบวมน้ำ ประสาทตาอักเสบ หรืออารมณ์ผิดปกติ เป็นอันตรายได้เหมือนกัน ฉะนั้นหญิงตั้งครรภ์จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวแมว และของใช้ที่เกี่ยวกับแมวทั้งหมดเลยจะดีกว่า

3. การที่เชื่อว่าแมวดำคือสัญลักษณ์ของความโชคร้าย แปลกมากเพราะจากผลการสำรวจผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ในปี 2000 พบว่าผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่ เกิดจากการสัมผัสกับแมวสีดำ หรือแมวขนสีเข้มมากกว่าแมวขนสีอ่อนๆ ถึง 4 เท่า นั่นเป็นเพราะว่าตามผิวหนัง และในน้ำลายของพวกแมวขนสีดำ หรือแมวขนสีเข้ม นั้นจะมีสารสำคัญในการก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่เรียกว่า Fel.d1 สะสมอยู่มากกว่าแมวขนสีอ่อน ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นสาเหตุให้หลายๆ คนเชื่อว่าแมวดำจะความโชคร้ายมาให้นั่นเอง

4. การที่เชื่อว่าแมวมี 9 ชีวิต เราคงได้ยินบ่อยๆ เกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าแมว มี 9 ชีวิต เพราะว่าถูกเล่าขานมาเป็นตำนานต่างๆกันออกไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นในประเทศแถบยุโรป เอเชีย อเมริกา หรือแอฟริกา โดยเฉพาะในประเทศอียิปต์ที่นับถือว่า แมวเป็นตัวแทนของเทพเจ้าเลยทีเดียว สาเหตุที่ทำให้ผู้คนต่างคิดว่าแมวมี 9 ชีวิตนั้น อาจจะเกิดจาก ลำตัวของแมวมีความยืดหยุ่นสูง จึงทำให้สามารถกระโดดจากที่สูงได้โดยไม่บาดเจ็บเลย และแมวก็สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยอยู่กับผู้คนก็แค่นั้นเอง

5. การที่เชื่อว่าแมวสามารถลงพื้นได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้แมวจะมีร่างกายที่ยืดหยุ่นสูง แต่ก็ใช่ว่าพวกมันจะกระโดดลงจากที่สูงลงมาได้อย่างปลอดภัยเสมอไป เพราะแมวก็มีสิทธิ์พลาด และพลั้งเผลอตกลงมาโดยไม่ทันตั้งตัวได้เช่นกัน ดังนั้นในบางครั้งแมวก็มีโอกาสเกิดบาดแผล และเกิดอาการบาดเจ็บได้เช่นกันครับ

6. การที่เชื่อว่าเสียงครางของแมว นั้นหมายถึงแมวกำลังมีความสุข การที่แมวทำเสียงครางนั้นเพราะเป็นเสียงแรกที่แมวสามารถทำได้ ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะในขณะนั้นพวกมันไม่สามารถทำเสียงสูง หรือเสียงต่ำได้ จึงทำให้คุณได้ยินเสียงครางออกบ่อย ๆ และเข้าใจว่าแมวกำลังมีความสุขนั่นเอง ดังนั้นเสียงครางจึงไม่ได้หมายความว่าพวกมันกำลังมีความสุขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจจะกำลังสื่อสารให้คุณรู้ว่าพวกมันกำลังป่วย หรือบาดเจ็บอยู่ก็เป็นได้ นั่นคือสิ่งที่เราควรรู้เอาไว้ก่อน

7. การที่เชื่อว่าแมวไม่ชอบน้ำ คงคิดว่าแมวทุกตัวจะกลัวน้ำ หรือไม่ชอบน้ำเสมอไป แต่ความจริงแมวบางตัวก็ชอบเล่นน้ำเหมือนกัน อย่างเช่นแมวสายพันธุ์ เตอร์กิชแวน ที่รักการว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ จนได้รับฉายาว่า "Swimming cat" เลยทีเดียว แต่การที่เราไม่ค่อยเห็นแมวเข้าใกล้วน้ำสักเท่าไหร่ ก็เพราะแมวคิดว่ามันไม่ควรทำให้ตัวเองเปียก เพื่อแลกกับปลาตัวเล็กๆ ในสระว่ายน้ำ และทั้งๆที่มีอาหารจานใหญ่รออยู่ตรงหน้าแล้วนั่นเอง

8. การที่เชื่อว่าแมวเป็นสัตว์หากินกลางคืน คงเป็นเพราะสายตาของแมวสามารถมองเห็นสิ่งต่าง  ผ่านทางแสงสว่างที่มีอยู่น้อยๆได้ หรือความมืดในกลางคืนได้ดีกว่าแสงสว่างในตอนกลางวัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาโพล้เพล้ หรือใกล้ค่ำ จะเป็นเวลาที่เหมาะกับการล่าเหยื่อมากที่สุด แต่ก็ใช่ว่าแมวจะสามารถมองเห็นแม้ในที่มืดสนิทได้หรอกนะ ดังนั้นจึงไม่ควรด่วนสรุปว่าแมวเป็นสัตว์ที่หากินตอนกลางคืน

9. การที่เชื่อว่าแมวชอบความสันโดษ จะเห็นว่าแมวจะได้อยู่รวมกันเป็นฝูงเหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ แต่พวกมันก็จะอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน หรือบริเวณใกล้ๆเคียงกันกับแหล่งอาหารของพวกมันนั่นเอง โดยเฉพาะแมวเพศผู้ที่มีอายุประมาณ ปีครึ่งขึ้นไป ก็จะออกไปหากินตัวเดียวมากกว่าแมวเพศเมีย ดังนั้นหากคุณไม่อยากให้แมวที่คุณเลี้ยงต้องหนีออกไปอยู่นอกบ้าน ก็ควรจะเลี้ยงแมวตั้งแต่พวกมันอายุเพียง 8 - 10 เดือนเท่านั้น และควรจะเลี้ยงตั้งแต่สองตัวขึ้นไป ก็จะทำให้พวกมันมีนิสัยอยู่ติดบ้านมากกว่า เลี้ยงแมวที่มีอายุ หรือเลี้ยงแมวแค่เพียงตัวเดียว

เราจากที่เราได้เรียนรู้ว่าแมวมีความลับอะไรบ้าง จากเมื่อก่อนที่มีความคิดผิดๆ เดี๋ยวนี้สามารถพิสูจน์พฤติกรรมของแมวได้ง่ายเช่นกัน เพื่อนๆหลายคนคงอยากจะ เลี้ยงแมว สักตัวแล้วใช่ไหมครับ หวังว่าบทความนี้ที่นำมา จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ เหมือนกันนะครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น